วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

การแต่งตั้งทนายความ


ตอนที่ 1
         
ความไม่รู้กฎหมาย ไม่อาจนำมาปฏิเสธให้พ้นความรับผิดได้  เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินสำนวนทำนองนี้มาแล้ว แต่มักจะไม่มีใครให้ความสนใจเท่าไหร่ ด้วยเพราะสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่เคยขึ้นกับตนเองมาก่อน  สาเหตุที่กฎหมายได้วางหลักการดังกล่าวสืบเนื่องจากการปกครองบ้านเมืองนั้น ต้องใช้หลักกฎหมายเข้ามาควบคุมพฤติกรรมของคนในสังคมจึงจะสามารถรักษาความสงบสุขได้  หากขาดซึ่งหลักการดังกล่าวแล้วสังคมก็จะมีแต่ผู้ที่ล่วงละเมิดทั้งทางร่างกายหรือทรัพย์สินของผู้อื่นและกลับมาอ้างภาย หลังว่าตนเองกระทำลงไปโดยไม่รู้กฎหมายย่อมจะเกิดความวุ่นวายในสังคมอันมิอาจควบคุมได้  ฉะนั้น กฎหมายจึงกำหนดให้เป็นหน้าที่ ว่าทุกคนจะต้องรู้กฎหมายเท่านั้น
                    
แต่ด้วยเพราะข้อจำกัดของการรู้กฎหมายมีอยู่เพียงวงแคบๆ อาทิ นักกฎหมาย  ผู้พิพากษา อัยการ หรือทนายความเพียงเท่านั้น  ประชาชนทั่วไปไม่อาจศึกษาข้อกฎหมายหรือเข้าใจหลักเกณฑ์ด้านกฎหมายกันได้ครบทุกคน  จึงจำเป็นจะต้องมีผู้ที่มีความรู้ในด้านกฎหมายโดยเฉพาะนั่นคือ ทนายความ   บทบาทของทนายความคือ ผู้ที่นำความรู้ด้านกฎหมายมาประยุกต์ปรับใช้กับคดีความต่างๆ ซึ่งจะสัมฤทธิ์ผลมากน้อยเพียงใดก็ต้องขึ้นอยู่กับ ความสามารถของทนายความท่านนั้นๆ เอง โดยลูกความมิอาจหยั่งรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าทนายความที่ตนเองมอบหมายให้ดำเนิน การมีความสามารถหรือเชี่ยวชาญในคดีนั้นหรือไม่เพียงใด ซึ่งย่อมส่งผลร้ายแก่ตัวลูกความโดยตรงเพราะผลกระทบในด้านคดีหาได้เกิดแต่ตัว ทนายความคนนั้นไม่  แต่ตกอยู่กับตัวลูกความผู้ว่าจ้างต่างหาก  ดังนั้น การพิจารณาแต่งตั้งทนายความสักคนเพื่อทำหน้าที่ทางกฎหมายแทนตนเองนั้น จึงมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการตัดสินใจเลือกสิ่งที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว
                    
ในบางครั้ง  การจ้างทนายความในอัตราที่สูงลิบลิ่วก็มิได้หมายความว่าจะได้ทนายความซึ่งมี ความสามารถในคดีนั้นเสียเมื่อไหร่  ความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า จ้างทนายความแพงๆ ก็จะได้คนเก่งอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปด้วยเพราะทนายความแต่ละคนย่อมมีความ สามารถแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ที่ตนเองเคยศึกษาและทำคดี  และมีทนายความจำนวนน้อยมากที่สามารถรอบรู้กฎหมายทุกๆ ด้านในคนๆเดียว  หรืออาจแทบจะไม่มีเลยทีเดียวก็ว่าได้  สิ่งเหล่านี้เราต้องเข้าใจและยอมรับก่อนตัดสินใจแต่งตั้งทนายความคนนั้นๆ เข้ามาดำเนินการแทน  ซึ่งก็เกิดข้อถามว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าทนายความที่จะแต่งตั้งไปนั้นมีความรู้ความสามารถ ในคดีนี้ของเราจริง เรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับว่าในเบื้องต้นอาจจะดูยากเพราะทนายความส่วนใหญ่ก็มักจะบอกว่า คดีที่จะจ้างนั้นเขามีความสามารถมาก ชนะแน่นอน ตรงนี้คงตัดสินอะไรไม่ได้เลยทีเดียว  ตัวเราเองต่างหากที่ต้องมีสติให้ มากเพราะ ส่วนมากแล้วผู้ที่เข้ามาปรึกษาทนายความต้องเป็นผู้ที่ประสบกับความเดือดร้อน เปรียบเสมือนคนป่วยที่ไปหาหมอเพื่อทำการรักษา  อย่างแรกคือ เราเองอย่ากังวลเรื่องคดีความจนเกินควร ลองฟังแนวทาง ข้อเสนอ วิธีการของทนายความ หากเห็นว่าดีหรือชอบแล้วก็ค่อยตัดสินใจแต่งตั้งได้  ซึ่งการอธิบายของทนายความแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปตามวิธีการเจรจา แต่สุดท้ายเราต้องได้คำตอบว่า เราจะได้อะไรจากทนายความคนนี้หรือทนายความคนนี้สามารถช่วยเราเรื่องอะไร”  หากคำตอบที่เราได้รับชัดเจนแล้วก็ถือว่า ผ่าน”  แล้วค่อยหารือเรื่องค่าทนายความภายหลัง  ส่วนค่าทนายความนั้นไม่มีบรรทัดฐานว่าควรจะเป็นเงินเท่าไหร่เพียงใด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ตัวเราและทนายความด้วยที่มีความพร้อมเพียงใดด้วย  ในเบื้องต้นเราก็อาจพิจารณาได้แล้วว่า ทนายความคนนี้มีความเหมาะสมเพียงใดกับคดีของเรา..